วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

อินเทอร์เน็ต โฆษณาฟรี

อินเทอร์เน็ต โฆษณาฟรี - กฎ ไม่ได้เขียนไว้ ของ อินเตอร์เน็ตใน ฟอรั่ม
โดย
การโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ฟรี จะขอหลังจาก โดยนักการตลาด อินเทอร์เน็ต มากที่สุด และเป็นหนึ่งใน แหล่งที่มาใช้ได้ อย่างง่ายดาย ของ การโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ฟรี ฟอรั่ม อินเทอร์เน็ต สำหรับสามเณร ตลาดอินเทอร์เน็ต ผมสั้น จะ อธิบายวิธี การโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ฟรี ได้มาจาก ฟอรั่ม อินเทอร์เน็ต . </ p> เด โดยทั่วไป ฟอรั่ม อินเทอร์เน็ต กระดานข้อความ ที่สมาชิก สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ขอรับ คำแนะนำหรือ เพียงแค่ พูดคุย มี ฟอรั่ม อินเทอร์เน็ตเพื่อ ความบันเทิงสำหรับ หัวข้อที่คุณ จะดูแล ที่จะจินตนาการ (และ บางอย่างที่คุณ อาจจะ ไม่ต้องการ ที่จะ อาศัยอยู่ใน ) ทุก นักการตลาดอินเทอร์เน็ตโฆษณา ผลิตภัณฑ์ของเขา ได้ง่ายๆโดยการ โพสต์ข้อความ ในเว็บบอร์ด มี ฟอรั่ม อินเทอร์เน็ต บางอย่างที่ ห้าม โพสต์ ของการโฆษณา ที่มี แต่ ในหลาย ฟอรั่ม เหล่านี้ก็ ยังคงเป็น ไปได้ที่จะ ได้รับ การโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ฟรี โดยการใช้ ลายเซ็น แฟ้มลายเซ็นเป็นชิ้น สั้น ของข้อความ ที่ สามารถมี การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์และ ที่สามารถนำมา ผนวกกับ ทุก โพสต์ ของสมาชิกทำให้ บนกระดานข้อความ ฟอรั่ม . </ p> เดถ้า คุณไม่เคย พยายามที่ ฟอรั่ม เป็นแหล่ง การโฆษณาทาง

Internet Faxing Service Review

ทาน บริการ รับส่งโทรสาร อินเทอร์เน็ต
โดย เอลเลน แฟร์เรลล์
Internet มีการ ปรับ รูปแบบของ สื่อ การสื่อสาร ทุกครั้งและ ส่งแฟกซ์ จะไม่มีข้อยกเว้น บิด ล่าสุด : แฟกซ์บริการ อินเทอร์เน็ต ที่ช่วยให้คุณ ส่งข้อความไปยัง เครื่องแฟกซ์ ใด ๆ จาก เว็บเบราเซอร์ หรืออีเมล์ และอื่น ๆ ที่ให้คุณ"หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร ส่วนบุคคล " แล้วส่ง เอกสารใด ๆ ส่งไปที่นั่น ไปยังกล่องจดหมาย อีเมลของคุณ
เครื่องโทรสาร - ลงตัว ใน ยุค 80และ ยุค 90
มัน เปิดการใช้งาน คุณสามารถส่ง เอกสารให้ทุกคน ทุกที่ทุกเวลา ใด ๆ และ รู้ว่ามัน ได้รับ ทันที มันเป็น สวรรค์ใน ช่วงปี 1980และทุกคน จะต้องมี อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มัน ได้กลายเป็นบิต ราคาแพงของ เครื่องจักร ที่จะ ใช้เงินคุณ เวลาที่คุณใช้ มันทุก องค์กร สมาร์ท ตอนนี้ ลดหรือกำจัด เครื่องแฟกซ์ ที่พวกเขาใช้ ในการสนับสนุน การให้บริการ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องแฟกซ์ค่าใช้จ่ายคุณ ใน กระดาษ หมึก , ค่าโทรศัพท์ และซ่อมแซม มันก็เหมือนรถแท็กซี่ เมตร ในเรื่องที่ เรียกเก็บเงิน และช่วยให้ การเจริญเติบโตและ การเจริญเติบโต ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ของ เอกสารที่คุณ แฟกซ์ จะถูกสร้างขึ้น บนคอมพิวเตอร์ หากคุณ แฟกซ์ ผ่าน เครื่องโทรสารคุณจะต้อง พิมพ์เอกสารด้วยตนเอง สร้าง หน้าปก และ คุณต้องไปที่ เครื่องแฟกซ์ที่จะ ส่งเอกสาร ทุกครั้งที่คุณ รับแฟกซ์ทุกท่าน จะต้อง ดึง มันออกมาจาก เครื่องแฟกซ์ชุมชน มากกว่าที่ มีมัน ส่งตรงไปยัง เวิร์กสเตชัน เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น เอกสาร อื่น ๆ หลายคน ยังคงใช้ เครื่องแฟกซ์ วันนี้ ทางเลือกคือการ ใช้บริการ แฟกซ์จาก บริษัท ที่ให้บริการ โทรสาร อินเทอร์เน็ต

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

ธุรกิจสถานบริการอินเตอร์เน็ต



ธุรกิจสถานบริการอินเตอร์เน็ต

สถานการณ์และปัญหาในปัจจุบัน
จากอัตราค่าบริการ 20-30 บาทต่อชั่วโมง จัดว่าผุ้ใช้คุ้มค่าอย่างมาก เพราะไม่ต้องซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เอง เพียงแต่จ่ายค่าใช้บริการ ในอัตราที่กำหนด ก็สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ที่มีความเร็วสูงได้ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้มีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เกิดขึ้นแทบทุกหนแห่ง โดยจะมีมากเป็นพิเศษ ในแหล่งชุมชน และแหล่งที่ใกล้สถานศึกษา แต่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไม่ได้มีเพียง แค่ตามสถานที่อย่างสถาบันการศึกษา หรือแหล่งธุรกิจเท่านั้น โดยเริ่มแพร่ขยายเข้าไป สู่หน่วยงานต่าง ๆ มากขึ้น เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นำรูปแบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ให้บริการแก่ผู้ป่วย และผู้ใช้บริการทั่วไป ที่ต้องการเข้าสู่อินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ภายในโรงพยาบาล

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

กูเกิล (Google Inc.)

ประเภท
บริษัทมหาชน (แนสแด็กGOOG) , (LSEGGEA)
ก่อตั้งเมื่อ
เมนโลพาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย
(4 กันยายน 2541[1]
สำนักงานใหญ่
เมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย
บุคลากรหลัก
แลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้ง ผู้อำนวยการ
เซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธานฝ่ายเทคโนโลยี
รายได้
US$21.796 พันล้าน56% (2551) [2]
จำนวนพนักงาน
ดูในส่วนผลิตภัณฑ์
คำขวัญ
Don't be evil
เว็บไซต์
www.google.com
www.google.co.th

กูเกิล (Google Inc.) (แนสแด็กGOOG และ LSEGGEA) เป็นบริษัทมหาชนอเมริกัน มีรายได้หลักจากการโฆษณาออนไลน์ที่ปรากฏในเสิร์ชเอนจินของกูเกิล อีเมล แผนที่ออนไลน์ ซอฟต์แวร์จัดการด้านสำนักงาน เครือข่ายออนไลน์ และวิดีโอออนไลน์ รวมถึงการขายอุปกรณ์ช่วยในการค้นหา กูเกิลสำนักงานใหญ่ที่รู้จักในชื่อกูเกิลเพล็กซ์ตั้งอยู่ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีพนักงาน 16,805 คน (31 ธันวาคม 2550)[ต้องการอ้างอิง] โดยกูเกิลเป็นบริษัทอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีดาวโจนส์ (ข้อมูล 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550) [3]
กูเกิลก่อตั้งโดย แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ขณะที่ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งภายหลังทั้งคู่ได้ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2541 ในโรงจอดรถของเพื่อนที่ เมืองเมนโลพาร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย [4] และมีการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2547 เพิ่มมูลค่าของบริษัท 1.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และหลังจากนั้นทางกูเกิลได้มีการขยายตัวตลอดเวลาจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่และการซื้อกิจการอื่นรวมเข้ามา กูเกิลได้ถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยนิตยสารฟอร์จูน[5] ซึ่งมีคติพจน์ประจำบริษัทคือ Don't be evil อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในด้านการละเมิดข้อมูลส่วนตัว การละเมิดลิขสิทธิ์ และการเซ็นเซอร์ในหลายส่วน

ADSL อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

  ADSL  อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
การเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้ตามบ้านโดยทั่วไปในอดีตและปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้วิธีการหมุนโมเด็มเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าความเร็วในการรับส่งข้อมูลของโมเด็มในปัจจุบันสูงสุดได้ไม่เกิน 56 กิโลบิตต่อวินาที(Kbps) แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้อยครั้งที่เราสามารถใช้งานโมเด็มได้เต็มความสามารถที่ความเร็วดังกล่าว เนื่องจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่นสภาพของคู่สายโทรศัพท์ไม่ดีพอ หรือขีดความสามารถของผู้ให้บริการ ซึ่งการใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วต่ำดังกล่าวได้สร้างความเบื่อหน่ายให้กับนักท่องอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างยิ่ง และเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้การเจริญเติบโตของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในบ้านเราปัจจุบันยังไม่สูงมากนัก อีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้ตามบ้านปัจจุบันคือการใช้เคเบิ้ลโมเด็ม ซึ่งถึงแม้จะให้ความเร็วที่สูงแต่ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ต้องลงทุนเดินสายสัญญาณใหม่ทำให้ต้องจ่ายค่ายริการที่ค่อนข้างสูงและมีพื้นที่บริการจำกัดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น

       สำหรับผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มองค์กร หรือบริษัท ต่างๆ ก็อาจมีทางเลือกมากขึ้นในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้แก่ การใช้คู่สาย ISDN ,วงจรเช่า(Leased Line),ไฟเบอร์ออพติค หรือตลอดจนดาวเทียมเป็นต้น ซึ่งแม้จะสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ด้วยความเร็วที่สูงกว่า แต่สิ่งที่ตามมาก็คือค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าหลายเท่าเช่นกัน แต่ในวันนี้ผู้ใช้งานทั้งสองกลุ่มมีทางเลือกที่ดีกว่า ทั้งด้านประสิทธิภาพและราคา ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า ADSL

       ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) เป็นหนึ่งในสมาชิกของเทคโนโลยีตระกูล DSL (Digital Subscriber Line) หรือบางครั้งเรียกว่า xDSL ได้แก่ HDSL (High Bit Rate DSL), SDSL (Symmetric DSL), VDSL (Very High Bit Rate DSL),RADSL (Rate Adaptive DSL)เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีตระกูลนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลผ่านคู่สายทองแดงที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ให้มีความสามารถในการรับส่งข้อมูลได้มากขึ้น เป็นการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเดิมที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยที่ไม่ต้องลงทุนสร้างโครงข่ายใหม่ทั้งหมดในบรรดาเทคโนโลยีตระกูล DSL ความจริงแล้วก็สามารถกล่าวได้ว่าเป็นโมเด็มชนิดหนึ่งนั่นเอง แต่สิ่งที่แตกต่างที่เห็นได้ชัดคือความเร็วในการส่งข้อมูล ซึ่งในบรรดาเทคโนโลยีตระกูล DSL ที่ใช้งานกันในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ADSL เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากว่าในการใช้งานโดยทั่วไปเราจะเป็นผู้ที่โหลดข้อมูลจากเครือข่ายมากกว่าส่งข้อมูลไปยังเครือข่าย ซึ่งโมเด็ม ADSL มีความสามารถในการดาวโหลดข้อมูลจากผู้ให้บริการ(Downstream) ได้สูงสุดถึง 8 เมกกะบิตต่อวินาที (Mbps) และสามารถส่งข้อมูลขึ้นไปยังผู้ให้บริการ(Upstream) ได้สูงถึง ประมาณ 640 กิโลบิตต่อวินาที จากการที่ความเร็วในการรับและส่งข้อมูลที่ไม่เท่ากันจึงเป็นที่มาของคำว่า Asymmetric DSL นั่นเอง ซึ่งความเร็วในการดาวโหลดข้อมูลของ ADSL หากเทียบกับโมเด็มปกติ (56 Kbps) แล้วจะเร็วกว่าถึงประมาณ 140 เท่าเลยทีเดียว หากยังนึกไม่ออกว่าจะเร็วขนาดไหน ก็ขอยกตัวอย่างการดาวโหลดโปรแกรมซักโปรแกรมหนึ่งที่มีขนาด 10 เมกกะบิต หากใช้โมเด็มปกติจะใช้เวลาในการดาวโหลดถึงประมาณสามชั่วโมง เรียกว่ารอกันจนเหนื่อยเลย แต่หากเป็น ADSL แล้วจะใช้เวลาเพียง ประมาณนาทีครึ่งเท่านั้นเอง
       อะไรที่ทำให้เทคโนโลยี ADSL จึงทำได้เหนือกว่าโมเด็มธรรมดาขนาดนั้น ก็ต้องอธิบายก่อนว่าโมเด็มธรรมดาได้ใช้การส่งข้อมูลไปในช่องสัญญาณเดียวกับช่องสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งมีช่วงแบนวิทด์(ช่วงกว้างของความถี่) เพียง 4 กิโลเฮิร์ต เท่านั้นเอง ด้วยเทคโนโลยีการมอดดูเลชั่น(การผสมสัญญาณข้อมูลเข้ากับคลื่นพาหะ) ปัจจุบันจึงทำให้สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดเพียง 56 กิโลบิตต่อวินาทีและข้อมูลจะถูกส่งผ่านสายโทรศัพท์ไปยังตัวสวิทชิ่งของชุมสายโทรศัพท์และถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต

       แต่ในความจริงแล้วคู่สายโทรศัพท์ที่เป็นสายทองแดงมีช่วงความถี่กว้างถึงประมาณหนึ่งเมกกะเฮิร์ต ดังนั้น เทคโนโลยี ADSL จึงได้นำความถี่ในช่วงที่เหนือจากช่วงความถี่ของระบบโทรศัพท์ที่เหลืออยู่นี้มาใช้ในการรับส่งข้อมูล ด้วยช่วงความถี่ที่กว้างกว่าและเทคโนโลยีการส่งสัญญาณแบบใหม่ คือ DMT (Discrete Multi Tone) หรือ CAP (Carrierless Amplitude And Phase Modulation) จึงทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 8 เมกกะบิตต่อวินาทีนั่นเอง โดยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับแยกสัญญาณระหว่างเสียงกับข้อมูลที่บ้านผู้ใช้บริการที่เรียกว่า Splitter โดยสัญญาณเสียงและข้อมูลจะถูกส่งไปบนคู่สายโทรศัพท์เดียวกัน ไปยังอุปกรณ์ Splitter ด้านชุมสายโทรศัพท์  เพื่อแยกสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ชุมสายโทรศัพท์และ แยกสัญญาณข้อมูลไปยังอุปกรณ์ ADSL Card ซึ่งเป็นโมเด็มที่อยู่ด้านชุมสาย และ อุปกรณ์ DSLAM (DSL access Multiplexer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรวบรวมสัญญาณข้อมูลจากผู้ใช้รายย่อย จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งผ่านระบบสื่อสัญญาณไปยังผู้ให้บริการเครือข่าย ADSL และส่งต่อไปยังผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตต่อไปดังรูปภาพด้านบน

       อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงการที่จะส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงมากเท่าใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพของคู่สายโทรศัพท์ด้วย ซึ่งคู่สายโทรศัพท์ที่ใช้อยู่จริงมีจุดต่อหลายจุดและอาจมีออกไซด์หรือความชื้นในสายซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลในเกิดการสูญเสียของข้อมูลได้ ในการทดลองใช้งานจริงในประเทศไทยก็พบว่าการรับส่งข้อมูลทำได้ไม่ถึงตามความสามารถสูงสุดที่ 8 Mbps โดยปัจจุบันอัตราความเร็วสูงสุดที่ให้บริการลูกค้ากลุ่มองค์การในอยู่ที่ความเร็ว 2 Mbps ซึ่งเป็นความเร็วเพียงพอที่จะใช้งานกับข้อมูลมัลติมีเดียแบบภาพเคลื่อนไหวเช่นวิดีโอได้

คุณสมบัติของเทคโนโลยี ADSL มีอะไรบ้าง

       ความเร็วสูง  เทคโนโลยี ADSL มีความเร็วสูงกว่าโมเด็มแบบ 56K ธรรมดากว่า 5 เท่า (256 Kbps.) หรือสูงสุดกว่า 140 เท่าที่ความเร็ว 8 Mbps.
การเชื่อมต่อแบบ Always On สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา เหมาะสำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 
ค่าใช้จ่ายคงที่ ในอัตราที่ประหยัด  ค่าใช้จ่ายเป็นแบบเหมาจ่ายรายเดือนแบบไม่จำกัดเวลา ในราคาเริ่มต้นที่ประหยัด ไม่ต้องเสียค่าเชื่อมต่อโทรศัพท์ต่อครั้ง
ความเร็วของ ADSL เป็นอย่างไร

       เทคโนโลยี ADSL มีความเร็วในการรับข้อมูล (Downstream) และความเร็วในการส่งข้อมูล (Upstream) ไม่เท่ากัน  โดยมีความเร็วในการรับข้อมูลสูงกว่าความเร็วในการส่งข้อมูลเสมอ เทคโนโลยี ADSL มีความเร็วในการรับข้อมูลสูงสุด 8 เม็กกะบิตต่อวินาที (Mbps) และความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 640 กิโลบิตต่อวินาที (Kbps.) ความเร็วอาจเริ่มตั้งแต่ 128/64, 256/128, 512/256 เป็นต้น โดยความเร็วแรกเป็นความเร็วขารับข้อมูล

ประโยชน์อะไรได้บ้างจากบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ADSL

       1. รับและส่งไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
       2. การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากอินเทอร์เน็ต
       3. การดู VDO streaming และ การประชุมทางไกล VDO conferencing
       4. การประยุกต์ใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยของบ้าน และการมอนิเตอร์สถานที่ต่าง ๆ จากระยะไกล
           โดยใช้ใช้ IP Camera เชื่อมต่อผ่าน ADSL
       5. การเชื่อมต่อระหว่างสำนักงานด้วยกันในราคาที่ประหยัด
       6. การสำรองข้อมูลจากสำนักงาน หรือจากอินเทอร์เน็ต
       7. การเล่นเกมส์ออนไลน์ที่เร็วและสนุกกว่าเดิม
       
ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type2/tech04/25/chapter_2.2.html



วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

วินโดวส์ อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์

วินโดวส์ อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ (อังกฤษWindows Internet Explorer) (ก่อนนี้เรียกว่า ไมโครซอฟท์ อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์) โดยมีชื่อย่อว่า ไออี (IE) เป็น href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C" style="background-image: none; background-position: initial initial; background-repeat: initial initial; color: #0b0080; text-decoration: none;" title="เว็บเบราว์เซอร์">เว็บเบราว์เซอร์ของไมโครซอฟท์และเป็นซอฟต์แวร์ที่มีให้พร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์

ไออีเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่มีนิยมคนนิยมใช้มากเป็นตัวหนึ่ง โดยในปี 2545 มีสัดส่วนการใช้งานในตลาดเว็บเบราว์เซอร์ประมาณ 95% และมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากมีคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นจนถึงประมาณ 46% ในปี พ.ศ. 2554 รุ่นล่าสุดคือรุ่น อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 9 ซึ่งสามารถใช้ได้สำหรับ วินโดวส์ 7,วินโดวส์ วิสตา และ วินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2008

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

เครือข่ายคอมพิวเตอร์



เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก (อังกฤษcomputer network; ศัพท์บัญญัติว่า ข่ายงานคอมพิวเตอร์) คือเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างคอมพิวเตอร์จำนวนตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆในเครือข่าย (โหนดเครือข่าย) จะใช้สื่อที่เป็นสายเคเบิลหรือสื่อไร้สาย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จักกันดีคือ อินเทอร์เน็ต

การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมีการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกัน เพื่อเพิ่มความสามารถของระบบให้สูงขึ้น และลดต้นทุนของระบบโดยรวมลง
การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกันในเครือข่าย ทำให้ระบบมีขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้น การแบ่งการใช้ทรัพยากร เช่น หน่วยประมวลผลหน่วยความจำหน่วยจัดเก็บข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีราคาแพงและไม่สามารถจัดหามาให้ทุกคนได้ เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดภาพ (scanner) ทำให้ลดต้นทุนของระบบลงได้

อุปกรณ์เครือข่ายที่สร้างข้อมูล, ส่งมาตามเส้นทางและบรรจบข้อมูลจะเรียกว่าโหนดเครือข่าย. โหนดประกอบด้วยโฮสต์เช่นเซิร์ฟเวอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่าย อุปกรณ์สองตัวจะกล่าวว่าเป็นเครือข่ายได้ก็ต่อเมื่อกระบวนการในเครื่องหนึ่งสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกระบวนการในอีกอุปกรณ์หนึ่งได้
เครือข่ายจะสนับสนุนแอปพลิเคชันเช่นการเข้าถึงเวิลด์ไวด์เว็บ, การใช้งานร่วมกันของแอปพลิเคชัน, การใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับเก็บข้อมูลร่วมกัน, การใช้เครื่องพิมพ์และเครื่องแฟ็กซ์ร่วมกันและการใช้อีเมลและโปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีร่วมกัน

การเชื่อมโยงเครือข่าย

สื่อกลางการสื่อสารที่ใช้ในการเชื่อมโยงอุปกรณ์เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยสายเคเบิลไฟฟ้า (HomePNA, สายไฟฟ้าสื่อสาร, G.hn), ใยแก้วนำแสง และคลื่นวิทยุ (เครือข่ายไร้สาย) ในโมเดล OSI สื่อเหล่านี้จะถูกกำหนดให้อยู่ในเลเยอร์ที่ 1 และที่ 2 หรือชั้นกายภาพและชั้นเชื่อมโยงข้อมูล


วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557

การต่ออินเตอร์เน็ต โดยใช้โมเด็ม 2 ตัวพร้อมกัน หรือ Multi Link PPP

การต่ออินเตอร์เน็ต โดยใช้โมเด็ม 2 ตัวพร้อมกัน หรือ Multi Link PPP
ในปัจจุบันนี้ การต่ออินเตอร์เน็ตโดยใช้ โมเด็ม ธรรมดาทั่วไป จะสามารถทำความเร็วของการรับข้อมูลได้ สูงสุดที่ 56Kbps ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มักจะได้ความเร็วที่ต่ำกว่านั้น เช่นอาจจะอยู่ที่ 40-50Kbps หากต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ต ที่เร็วมากกว่านี้ จะต้องเปลี่ยน รูปแบบของการต่อ อินเตอร์เน็ตใหม่ เช่นเปลี่ยนไปใช้ ISDN หรือ ADSL ซึ่งราคาค่าบริการ จะแพงกว่า การเชื่อมต่อผ่าน โมเด็มธรรมดาค่อนข้างมาก ถ้าหากท่านมี account ต่ออินเตอร์เน็ตที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi Link และมีโมเด็ม 2 ตัว มีคู่สายโทรศัพท์ 2 สาย มาลองทำการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ Multi Link ให้ได้ความเร็วเป็น 2 เท่าดีกว่าครับ

สิ่งแรกที่จะต้องมี ในการใช้งาน Multi Link คือ
1. Account สำหรับต่ออินเตอร์เน็ตที่รองรับ Multi Link หรือที่ connect ได้พร้อม ๆ กันหลายคนใน user เดียวกัน
2. โมเด็ม 2 ตัวติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะเป็นแบบ Internal หรือ External ก็ได้ทั้งนั้น
3. คู่สายโทรศัพท์ 2 เบอร์ สำหรับโมเด็ม 2 ตัวครับ
4. ระบบปฏิบัติการต้องเป็น Windows98 ขึ้นไป หรือ Windows95 ที่อัพเกรต Dial-Up Networking เป็นรุ่น 1.3

โดยปกติแล้ว การซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ตแบบรายชั่วโมง หากเป็นแบบที่รองรับ Multi Link PPP แล้ว ระบบมักจะทำการ นับชั่วโมงการใช้งานอินเตอร์เน็ต เพิ่มเป็น 2 เท่านะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

การแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์

การแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์

                การแก้ไขปัญหาในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ จำเป็นที่เราต้องศึกษาการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์แต่ละส่วนไป ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยทำการศึกษาถึงการทำงานของส่วนประกอบแต่ละส่วนว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร เพื่อที่จะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ปัญหาได้อีกทาง
เมนบอร์ด : MAIN BOARD
                เมนบอร์ด เป็นส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์ ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับวงแผงวงจรไฟฟ้าทั่วไป โดยมีชิพไอซีและขั้วต่อต่างๆมากมายอยู่บนตัวมันเพื่อใช้ในการควบคุมของอุปกรณ์ต่อพ่วง ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู, หน่วยความจำ, การ์ดขยายต่างๆ, ฮาร์ดดิสก์, ฟลอปปี้ดิสก์, ซีดีรอมไดรว์ ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้แม้จะมีความสำคัญเพียงใด ก็ไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่ติดตั้งลงบนเมนบอร์ด


ส่วนประกอบที่สำคัญบนเมนบอร์ด

1.       ชุดชิพเซ็ต ชิพเซ็ตเป็นหัวใจของเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานของชิพเซ็ตนั้นเปรียบ
เสมือนล่ามแปรภาษาต่างๆ ให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นที่อยู่บนเมนบอร์ดเข้าใจและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยชุดชิพเซ็ตนี้จะประกอบด้วยไอซีสองตัว(หรือมากกว่าในชิพเซ็ตรุ่นใหม่ๆ) นั่นคือชิพเซ็ตที่เรียกกันง่ายๆ ว่า North Bridge หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า System Controller หรือ AGP Set และตัวที่สองคือ South Bridge เรียกเป็นทางการว่า PCI to ISA Bridge
System Controller หรือ North Bridge
                ชิพเซ็ตตัวนี้จะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงกว่าอุปกรณ์อื่นๆ บนเมนบอร์ด อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ซีพียู, หน่วยความจำแคชระดับสอง หรือ L2 cache หน่วยความจำหลักหรือ RAM, ระบบกราฟิกบัสแบบ AGP(Accelerated Graphic Port) ระบบบัส PCI
PCI to ISA Bridge หรือ South Bridge
                ชิพเซ็ตตัวนี้จะรับภาระที่เบากว่าตัวแรก คือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างระบบบัสแบบ PCI กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีความเร็วต่ำกว่าตัวมัน เช่นระบบบัสแบบ ISA, ระบบบัสอนุกรมแบบ USB, ชิพคอนโทรลเลอร์ IDE, ชิพหน่วยความจำรอมไบออส,ฟลอปปี้ดิสก์, คีย์บอร์ด, PS/2 เมาส์, พอร์ทอนุกรมและพอร์ทขนาน
           

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

ยุคของอินเทอร์เน็ต

 อินเตอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่ายที่มีการพัฒนามาต่อเนื่องไม่น้อยกว่าสามสิบปีแล้ว ในตลอดช่วงพัฒนาการของอินเตอร์เน็ตนั้น สามารถแบ่งได้เป็นสามยุคด้วยกัน

"Internet 1.0"
          ยุคแรกเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคล (Human-to-Human Communication) ในยุคนี้พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตจะเป็นเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลที่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเทคโนโลยีที่สคัญที่พัฒนาใช้งานกับอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในยุคนี้ได้แก่ อีเมล (Email) และ ยูสเน็ต (UseNet)



        อีเมลเป็นเทคโนโลยีที่ยังมีการใช้งานในปัจจุบัน นอกจากการสื่อสารระหว่างบุคคลแล้วอีเมลได้มีการประยุกต์ใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคล (Human-to-Community Communication) ด้วย เทคโนโลยีเพื่อการนี้เรียกว่า เมลลิ่งลิสต์ (Mailing List) ซึ่งก็ยังมีการใช้งานอยู่เช่นกัน

       ส่วน UseNet ได้รับความนิยมลดน้อยลง แต่ก็ยังมีการใช้งานอยู่อย่างสม่ำเสมอจากผู้ใช้ที่ใช้งานมาตั้งแต่ในอดีต ผู้ให้บริการ UseNet รายสคัญในปัจจุบันคือ Google ภายใต้ชื่อ Google Groups นั่นเอง


"Internet 2.0"
          ยุคต่อมาเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารระหว่างบุคคลกับคอมพิวเตอร์ (Human-to-Computer Communication) เทคโนโลยีสคัญที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตในยุคนี้ได้แก่ เว็บ (Web หรือ World Wide Web) เว็บเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทงานใดงานหนึ่งจากระยะไกลได้ผ่านกระบวนการใช้งานที่เป็นมาตราฐานเดียวกัน

      

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 9

อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 9

ไออี 9 เริ่มพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2552 เริ่มเปิดตัวรุ่นทดลองแรกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2553 หลังจากนั้นได้ทำการทดลองแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ อีก 1 ปี ก่อนจะเปิดตัวรุ่นสมบูรณ์ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมานี้
หลังจากไออี 6 ได้ทำสถิติให้ไออีรวมทุกเวอร์ชันมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึงร้อยละ 94 ในปี พ.ศ. 2546 แล้ว ส่วนแบ่งการตลาดของไออีก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเหลือเพียงร้อยละ 57 ด้วยการที่มีคู่แข่งรายอื่นได้สร้างเว็บเบราว์เซอร์ที่มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างชัดว่าดีกว่ามาตีตลาด ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มมองไออี เป็นเพียงโปรแกรมพื้นฐานในการเล่นอินเทอร์เน็ตที่ติดมากับวินโดวส์เท่านั้น การจะเล่นอินเทอร์เน็ตจะให้ดี ต้องใช้เบราว์เซอร์อื่นๆ ในการพัฒนาไออี 9 จึงจำเป็นต้องเพิ่มคุณสมบัติใหม่เพิ่มขึ้น เช่น รองรับภาษา HTML5 ได้มากขึ้น ทำให้สามารถครอบคลุมคำสั่งทางคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน กลุ่มนักพัฒนาเว็บไซต์ต่างๆ ได้กล่าวว่า ไออี 9 รองรับการใช้งานแท็กต่างๆ ในภาษา HTML5 ได้มากที่สุดในบรรดาเว็บเบราว์เซอร์ต่างๆ ในขณะนี้[6] การจัดการทูลบาร์ต่างๆ จะจัดให้ไม่มีแถบต่างๆ ลงมารกหน้าเว็บมากนัก ทำให้มีหน้าเว็บที่เต็มจอมากขึ้น และมีฟังก์ชันการใช้งาน ที่ให้ผู้ใช้สร้างรายชื่อเว็บ ที่ไม่ต้องการให้ผู้ใช้รายอื่นเข้ามาติดตาม หรือทราบประวัติการเข้าไปดูเว็บนั้น นอกจากนี้ ไออี 9 มีความสามารถในการทำงานประสานกับ Graphic Processor (การ์ดจอ) บนเครื่องได้โดยตรง ไม่ต้องสั่งการผ่านซอฟต์แวร์ การแสดงผลกราฟิกจึงรวดเร็วขึ้น และดีขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

เครือข่ายสายท้องถิ่น

เครือข่ายสายท้องถิ่น (อังกฤษ: local loop, ข่ายสายสมาชิก ก็เรียก) ในระบบของโทรศัพท์พื้นฐาน
หมายถึง สายเคเบิลทองแดงตั้งแต่ 1 คู่สาย ขึ้นไปที่ใช้เชื่อมโยงจากชุมสายโทรศัพท์ไปที่บ้านผู้ใช้บริการ ที่ต้องเรียกเป็นวงหรือ loop เพราะต้องใช้สายทองแดงสองเส้นให้สัญญาณไฟฟ้าวิ่งไปและวิ่งกลับ เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมมีขอบเขตกว้างกว่าการสื่อสารด้วยเสียงเท่านั้น คำว่า local loop ยังถูกนำไปใช้ในความหมายใกล้เคียงกัน นั่นคือหมายถึงการเชื่อมโยงทางกายภาพหรือเป็นวงจรที่เชื่อมต่อจากขอบของผู้ให้บริการสายเคเบิลหรือจากจุดแบ่งเขตของสถ​​านที่ของเครือข่ายผู้ให้บริการไปยังที่ตั้งของสมาชิก
ที่ขอบของการเข้าถึงเครือข่ายของผู้ให้บริการในเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะแบบดั้งเดิมท้องถิ่น ข่ายสายท้องถิ่นต่อเข้ากับวงจรสวิทช์ที่ตั้งอยู่ในชุมสายเคเบิลท้องถิ่นหรือชุมสายโทรศัพท์
ที่ปลายด้านลูกค้า ข่ายสายท้องถิ่นมักเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้ากระชากแรงดันสูงหรืออุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า จากจุดนั้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า อุปกรณ์ภายในพื้นที่ลูกค้า (Customer-premises equipment, CPE) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสมาชิก จะถูกนำมาติดตั้ง

โครงสร้างพื้นฐาน
ด้วยความเข้าใจเดิม ข่ายสายท้องถิ่นคือวงจรไฟฟ้าที่ขนส่งสัญญาณไฟฟ้าโดยตัวนำคู่สายเดียวจากชุมสายโทรศัพท์ท้องถิ่นไปยังในสถานที่ของลูกค้า การใช้ตัวนำลวดเส้นเดียวและใช้ return path เป็นสายดินเคยถูกนำมาใช้จนกระทั้งมีการนำรถรางไฟฟ้ามาใช้หลังปี 1900 ทำให้ระบบดังกล่าวถูกยกเลิกไป

ความหมายของอินเตอร์เน็ต

ความหมายของอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต    (Internet)    คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลกเข้าด้วยกัน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไซเบอร์สเปซ “Cyberspace“คำเต็มของอินเตอร์เน็ตคือ อินเตอร์เน็ตเวิร์คกิ้ง (Internet Working) ต่อมานิยมเรียกสั้น ๆว่า อินเตอร์เน็ต หรือ เน็ต
บริการบนอินเตอร์เน็ต
           การที่มีระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายข่าวสารข้อมูลจากที่หนึ่งไปยัง อีกที่หนึ่ง โดยไม่จำกัดระยะทางส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ ทั้งข้อความ ภาพ ตัวหนังสือ ภาพและเสียง โดยอาศัยเครือข่าย โทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมเครือข่าย หรือโทรศัพท์
1. บริการอีเมล์ (E-Mail : Electronic mail) หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ คือบริการการสื่อสาร บนอินเตอร์เน็ต ที่นิยมใช้กันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง  สะดวก ใช้ง่าย ประหยัด รวดเร็ว ใช้กับงานที่เป็นทางการก็ได้ ไม่เปลืองซอง กระดาษ แสตมป์    ไม่ต้องเดินหาตู้ส่งจดหมาย หรือไปรษณีย์ แนบไฟล์รูปเข้าไปได้ (รวมทั้งมีมนุษย์หัวใส แนบไฟล์ไวรัสได้ด้วย)    ปัจจุบัน ยังสามารถใส่รูปแบบตัวหนังสือ สีสัน
จัดหน้าสวยงาม ด้วยรูปแบบ HTML หรือเวิลด์ไวด์เว็บ ก็ได้ อีกทั้งเวิลด์ไวด์เว็บก็พัฒนารูปแบบ ให้ส่งอีเมล์ได้ด้วย เช่น ฮอทเมล์ (Hotmail),ยาฮูเมล์ (Yahoo mail), ไทยเมล์ (Thai mail), เนทแอดเดรส (net address) ฯลฯ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ความสัมพันธ์กับการเมืองและธุรกิจ

ในปี 2004 การอภิปรายของผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี ในสหรัฐอเมริกา Carol Darr ผู้อำนวยการสถาบันการเมืองประชาธิปไตยและอินเทอร์เน็ต ที่มหาวิทยาลัย George Washington ในรัฐวอชิงตัน.ดี.ซี กล่าวว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อดึงดูดสนับสนุน "พวกเขาทั้งหมดมีความสามารถพิเศษ นอกรีต และลุกลาม ให้อินเทอร์เน็ตมีการโต้ตอบและต้องมีการยืนยันในส่วนของผู้ใช้ให้ตรงข้ามกับการตอบสนองจากผู้ใช้ passive TV มันไม่น่าแปลกใจที่ผู้สมัครจะต้องมีคนที่คนต้องการสัมผัสและโต้ตอบกับ

บริษัทและห้างร้าน

บริษัท ยังมีการใช้เทคนิคความเคลื่อนไหวทางอินเทอร์เน็ต เพิ่มการสนับสนุนสำหรับสาเหตุของ ตาม Christopher Palmeri กับ BusinessWeek Online บริษัท เว็บไซต์ ที่มีเจตนาที่จะบวกมีผลต่อภาพลักษณ์ของตัวเองเพื่อให้ความดันลบในคู่แข่งที่ มีผลต่อความคิดเห็นภายในกลุ่มเลือกและผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
แหล่งข้อมูลอื่น


วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

การตลาดอินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet marketing)

 การตลาดอินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet marketing)

 

หรืออาจใช้ว่า i-marketing, web-marketing, Digital Marketing, การตลาดออนไลน์ (online-marketing) หรือ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketing) หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด อย่างลงตัวกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งในรายละเอียดของการทำการตลาด E-Marketing จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. เป็นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในลักษณะเฉพาะเจาะจง (Niche Market)
2. เป็นลักษณะเป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง (2 Way Communication)
3. เป็นรูปแบบการตลาดแบบตัวต่อตัว (One to One Marketing หรือ Personalize Marketing) ที่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายสามารถกำหนดรูปแบบสินค้าและบริการได้ตามความต้อง การของตนเอง
4. มีการกระจายไปยังกลุ่มผู้บริโภค (Dispersion of Consumer)
5. เป็นกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถสื่อสารไปยังทั่วทุกมุมโลก ตลอด 24 ชั่วโมง (24 Business Hours)
6. สามารถติดต่อสื่อสาร โต้ตอบ ปฏิสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว (Quick Response)
7. มีต้นทุนต่ำแต่ได้ประสิทธิผล สามารถวัดผลได้ทันที (Low Cost and Efficiency)
8. มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมการตลาดแบบดั้งเดิม (Relate to Traditional Marketing)
9. มีการตัดสินใจในการซื้อจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ (Purchase by Information)
E-Marketing เป็นส่วนผสมแนวความคิดทางการตลาด และทางเทคนิค รวมเข้าไว้ด้วยกันทั้งด้าน การออกแบบ (Design) , การพัฒนา (Development) , การโฆษณาและการขาย (Advertising and Sales) เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce)

อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce)


หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce)  หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ให้ความหมาย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเป็น ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
ตัวอย่างเช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย และยังมีกฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาให้ความคุ้มครองด้วยในเรื่องของการเงิน


วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เว็บเบราว์เซอร์


เว็บเบราว์เซอร์ (อังกฤษweb browserเบราว์เซอร์
 โปรแกรมค้นดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ

เว็บเบราว์เซอร์ตัวแรกของโลกชื่อ เวิลด์ไวด์เว็บ  ขณะเดียวกันเว็บเบราว์เซอร์ที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ กูเกิลโครม

Web browser คืออะไร

Web browser คืออะไร” เป็นคำถามที่ผมยังสงสัยว่าทำไมคนยังคงถามและเรายังได้ยินบ่อยมาก ทั้งจากเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ คือถามกันเกือบทุกวัยเลยก็ว่าได้ ที่เป็นเช่นนี้ ผมเดาเอาว่า ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่รู้ซะเลยที่เดียวว่า Web browser คืออะไร เพราะหลายๆท่าน (รวมทั้งผมด้วย) ต่างก็ใช้งานมันอยู่ทุกวัน อย่างน้อยทุกคนก็ต้องรู้ละว่า Web browser (เว็บบราวเซอร์) คือโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์ แต่นิยามที่แต่ละคนให้ ถึงจะไม่ผิด แต่ก็มีความหลากหลาย ไม่เหมือนกัน ไม่ครอบคลุม หรือไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ซึ่ง หลังจากได้ค้นหาและอ่านนิยามจากหลายๆ เว็บ ผมขอให้ความหมายของ Web browser ใหม่ ดังนี้