วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ความสัมพันธ์กับการเมืองและธุรกิจ

ในปี 2004 การอภิปรายของผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี ในสหรัฐอเมริกา Carol Darr ผู้อำนวยการสถาบันการเมืองประชาธิปไตยและอินเทอร์เน็ต ที่มหาวิทยาลัย George Washington ในรัฐวอชิงตัน.ดี.ซี กล่าวว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อดึงดูดสนับสนุน "พวกเขาทั้งหมดมีความสามารถพิเศษ นอกรีต และลุกลาม ให้อินเทอร์เน็ตมีการโต้ตอบและต้องมีการยืนยันในส่วนของผู้ใช้ให้ตรงข้ามกับการตอบสนองจากผู้ใช้ passive TV มันไม่น่าแปลกใจที่ผู้สมัครจะต้องมีคนที่คนต้องการสัมผัสและโต้ตอบกับ

บริษัทและห้างร้าน

บริษัท ยังมีการใช้เทคนิคความเคลื่อนไหวทางอินเทอร์เน็ต เพิ่มการสนับสนุนสำหรับสาเหตุของ ตาม Christopher Palmeri กับ BusinessWeek Online บริษัท เว็บไซต์ ที่มีเจตนาที่จะบวกมีผลต่อภาพลักษณ์ของตัวเองเพื่อให้ความดันลบในคู่แข่งที่ มีผลต่อความคิดเห็นภายในกลุ่มเลือกและผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
แหล่งข้อมูลอื่น



ประวัติความเป็นมาของอินเตอร์เน็ต
                  
  ช่วงปีคริสต์ศตวรรษ  1960 (ประมาณปี 2503) ซึ่งเป็นยุคสงครามเย็น ระหว่าง สหรัฐกับโซเวียต มีความเสี่ยงทางการทหาร และ ความเป็นไปได้ ที่จะถูกโจมตี ด้วยอาวุธปรมาณู หรือ นิวเคลียร์ การทำลายล้าง      ศูนย์คอมพิวเตอร์ และระบบการสื่อสารข้อมูลอาจทำให้ เกิดปัญหาทางการรบ และในช่วงนี้   ระบบคอมพิวเตอร์ มีมากมายหลากแบบ นับเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และโปรแกรมกันได้โดยสะดวก จึงมีแนวความคิด ในการวิจัยระบบที่สามารถ เชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์    และแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างระบบที่แตกต่างกันได้
รัฐบาลสหรัฐ  จึงเริ่มต้นโครงการ อาร์พาเน็ต (ARPA net)   เมื่อปี   2509   (1966)   ดูแลโดย หน่วยงานวิจัยชั้นสูงของสหรัฐ (ARPA: The Advanced Research Projects Agency ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น DARPA: Defense    Advanced Research Projects  Agency   ในปี 2514 (1971) แล้วเปลี่ยนกลับเป็น ARPA ในปี 2536 (1993) และล่าสุดเปลี่ยนกลับเป็น DARPA ในปี 2539 (1996)) ในสังกัด   กระทรวงกลาโหม    เพื่อให้คอมพิวเตอร์รู้จัก ค้นหาเส้นทางเชื่อมโยง และส่งข้อมูลโดยอัตโนมัติ (dynamic    routing)ในกรณี
ที่เครือข่ายบางจุดถูกทำลาย   หรือเกิดความเสียหาย เครือข่ายที่เชื่อมโยงอยู่ในระบบที่เหลือ    จะต้องทำงานได้สำเร็จลุล่วงต่อไปได้
จุดเริ่มของ อาร์พาเน็ต     ได้ทำการทดลองต่อเชื่อมคอมพิวเตอร์ จาก 4 แห่ง      ช่วงเดือนกันยายน 2512 (1969)      เริ่มต้นจากมหาวิทยาลัย ลอสแองเจอลิส (UCLA) กับ    สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด (SRI)    ทั้งสองแห่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย      และเพิ่มอีกสองแห่ง คือ มหาวิทยาลัยซานตาบาร์บารา (UCSB) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย, และมหาวิทยาลัยแห่งรัฐยูท่าห์ (UTAH)
แนวคิดเบื้องต้นของวิธีการส่งข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เกิดจากพัฒนาการของ "โปรโตคอล (Protocol) " ซึ่งหมายถึง มาตรฐานกลางของการเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์หลากหลายระบบ   รวมถึงวิธีการส่งข้อมูล     และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน   ให้สามารถทำงานร่วมกันได้   โปรโตคอลเหล่านี้   มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ      ตั้งแต่ NCP (Network Control Protocol)   และล่าสุดเป็น TCP/IP (Transmission
Control Protocol / Internet Protocol)
จากเครือข่ายแวน   (wide-area computer network) ระบบแรกที่เกิดในปี 2508 (1965) เป็นการต่อ คอมพิวเตอร์ TX-2 ในแมสซาจูเส็ท เข้าไป     ควบคุมเรียกใช้งาน คอมพิวเตอร์ Q-32 ในแคลิฟอร์เนีย      เชื่อมต่อกันด้วยระบบเซอร์กิตสวิชชิ่ง ผ่านสายโทรศัพท์ ความเร็วต่ำ (dial-up telephone line)   ซึ่งมีความเร็วไม่เพียงพอทำให้ต้องพัฒนาเทคโนโลยี ใหม่ที่สำคัญยิ่ง ขึ้นมาทดแทน ช่วยให้คอมพิวเตอร์ต่างระบบคุยกันรู้เรื่องคือ "แพ็คเก็จ สวิชชิ่ง" (packet    switching)
กลายมาเป็นความแพร่หลายของ ระบบเครือข่ายท้องถิ่นหรือแลน  (LAN: Local Area Network)   คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC)และ เวิร์คเตชั่น (workstation) ส่งผลให้เกิด เทคโนโลยี อีเธอร์เน็ต (Ethernet technology) ในปี 2516 (1973)   ทำให้ระบบเครือข่ายขยายขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งมีการแบ่งขนาดของระบบเป็น คลาส (Class)    ต่างๆ และใช้ระบบหมายเลขไอพี (IP) แทนเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น 255.255.0.0 แต่เนื่องจากไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ทำให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นระบบ  โดเมนเนม (DNS: Domain Name System) ขึ้น โดยพอล มอคคาเพทริส (Paul Mockapetris แห่ง USC/ISI)    เช่น www.cisco.com และทำให้ระบบอินเตอร์เน็ต ขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ